วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ผู้คิด bar code เสียชีวิตแล้ว




สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Susan Woodland ลูกสาวของนาย Norman
Joseph Woodland 
หรือ N. Joseph Woodland ผู้สร้างรหัสแท่ง หรือ บาร์โค้ด
ข้อมูลรายการสินค้า ร่วมกับ
 Bernard Silver  เปิดเผยว่า บิดาเสียชีวิตแล้วเมื่อ
วันที่ 9 ธันวาคม 2012  ที่บ้านพักคนชราในรัฐนิวเจอร์ซีย์  ในวัย 91 ปี จากภาวะแทรกซ้อนของโรคอัลไซเมอร์

ทั้งนี้ นาย Silver เสียชีวิตในทศวรรษที่ 1960 จดสิทธิบัตรบาร์โค้ดเมื่อปี 2495 และ
ขายสิทธิบาร์โค้ดให้บริษัทพิลโก เป็นเงิน 15,000 ดอลลาร์ หรือราว 465,000 บาท
หลังจากนั้นนายวูดแลนด์ ได้ร่วมทีมพัฒนาเครื่องสแกนเลเซอร์สำหรับอ่านบาร์โค้ด
ในช่วงทศวรรษ
1970 จนเปลี่ยนวิถีการจับจ่ายของชาวอเมริกันและทั่วโลกในปัจจุบัน

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แท็กซี่สิงคโปร์เก็บเงิน 27ล้านบาทคืนสามีภรรยาชาวไทย



คนขับรถแท็กซี่น้ำใจงามวัย 70 ปี ชาวสิงคโปร์ เก็บเงินจำนวนกว่า 27 ล้านบาทคืนสามีภรรยาชาวไทยลืมกระเป๋า
ใส่เงินไว้บนรถ ขณะกำลังท่องเที่ยวในสิงคโปร์...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ว่า เซี่ย คา เถียน คนขับรถแท็กซี่วัย 70 ปี ของบริษัทขนส่ง

ในประเทศสิงคโปร์กลายเป็นฮีโร่ของบริษัท หลังเก็บเงินจำนวนมากเกือบ 900,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ 
(ราว 27.6 ล้านบาท) คืนแก่ลูกค้าซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาชาวไทย ที่ลืมกระเป๋าใส่เงินไว้ในรถของเขา

นายเซี่ยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์ของสิงคโปร์ว่า เขาสังเกตเห็นกระเป๋าผ้าสีดำวางอยู่

บริเวณเบาะหลังรถ จึงคิดว่าเป็นของผู้โดยสารซึ่งเป็นสามีภรรยาชาวไทย ที่เขาเพิ่งส่งลงที่ศูนย์การค้า
แห่งหนึ่ง เมื่อเปิดดูเขาก็พบว่ามีเงินสดจำนวนมหาศาลอยู่ในนั้น "ตอนผมเห็นเงิน ผมก็คิดว่า มีปัญหาแล้ว 
ผมแน่ใจว่าเงินในกระเป๋าต้องไม่น้อยกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ" แต่พอเขานำเงินกลับไปส่งที่
แผนกของหายของบริษัท คอมฟอร์ตเดลโกร เขาต้องตกใจเมื่อจำนวนที่นับเงินได้ถึง 900,000 
ดอลลาร์สหรัฐฯ (1.1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์)

ต่อมา สามีภรรยาชาวไทยดังกล่าวได้แจ้งเรื่องของหายกับบริษัท คอมฟอร์ตเดลโกร และพบว่าเงิน

ของพวกเขาถูกเก็บไว้อย่างดีจึงเดินทางมารับคืน โดยมีนายเซี่ยรออยู่ด้วยเพื่อยืนยันว่าใช่เจ้าของ
ตัวจริงหรือไม่ อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานว่าเหตุใดสามีภรรยาคู่นี้จึงเก็บเงินจำนวนมากมายเอาไว้ในกระเป๋า

ทั้งนี้ นายเซี่ยบอกกับหนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์ว่า เหตุที่เลือกคืนเงินแก่เจ้าของเพราะ "เงินก้อนนี้

ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับผม มันไม่ใช่ของผม แล้วผมจะนำมันไปใช้ได้อย่างไร" ขณะที่สามีภรรยาคู่นี้
ได้มอบเงินตอบแทนน้ำใจแก่นายเซี่ย โดยไม่เปิดเผยจำนวนเงิน และบริษัทขนส่งผู้จ้างนายเซี่ย
ก็เตรียมมอบรางวัลแก่การบริการที่ได้ดีเยี่ยมของเขาด้วย

น่าสรรเสริญจริง  ผิดกับแทกซี่ของเรา หยิบกระเป๋าของผู้โดยสารไปเก็บไว้ในบ้านแล้วยังมีหน้ามาบอกว่า
ไม่รู้ว้าเป็นของใคร  มันน่า.....นัก 

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เปลี่ยนเสื้อผ้าแบบเร็วจี๋ จนคนดูงง

คุณคิดว่า คุณสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เร็วแค่ไหน 3 นาที  5 นาที  หรือ 10 นาที  
ถ้นคุณคิดว่าเวลานี้เร็วแล้ว คุณคิดผิด คุณต้องใช้เวลาน้อยกว่านี้ ถึงน้อยที่สุด
เรามาดูคลิป การเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบเร็วจี๋  จนคนดูงง กันดีกว่าว่าเร็วแค่ไหน


จริงๆแล้วเป็นเพียงมายากลแบบหนึ่งเท่านั้น แต่ก็เป็นการแสดงที่ตื่นเต้นเร้าใจมาก 
ประทับใจจริงๆ  มาดูกันดีกว่า

คลิปแรกเป็นการแสดงของสองดูโอ

YouTube Video


คลิปที่สองเป็นการทำสถิติของ Guinness World Record โดยสามารถเปลี่ยนชุดได้ 
12 ชุด ในเวลา 1 นาที  สุดยอดจริงๆ  ลองดูนะว่าเร็วขนาดไหน

YouTube Video



คลิปสุดท้ายเป็นแสดงของ 3 พ่อลูก ดูแล้วน่ารักดี (Mike Bliss
and his two daughters)

YouTube Video


วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แมวอยากเป็นหมา และหมาก็อยากเป็นแมว

เรื่องแรก แปลกแต่จริงเมื่อแมวอยากเป็นหมา เอ๊ย! สุนัข แล้ว.....มาดูกันดีกว่าว่า
เหมือนสุนัขจริงหรือเปล่า 



ถ้าหลับตาฟังเสียงแล้ว รู้สึกใช่เลย เสียงเห่าของ น้องหมาแน่ๆ แต่พอลืมตาดูก็เห็นแมวตัวนึง
ก้มหน้าอยู่ สงสัยก้มดูสุนัขที่กำลังส่งเสียงเห่าอยู่ แต่เ๊อ๊ะ....พอหันหน้ามายังมีเสียงเห่าแล้ว
เสียงก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเสียงของแมวเหมียวแทน  นายแน่มาก....หลอกเรา(คนดู)ได้


 



เรื่องที่สอง  แปลกแต่จริงอีกเหมือนกันเมื่อหมาอยากเป็นแมว  แล้วก็ยิ่งงง.....งั้นมาดูกันดีกว่าว่า เหมือนแมวไหม?

   เมื่อเจ้า Mushka พันธุ์ Chihuahua ออกอาการอยากเป็นแมว โดยการร้องแบบแมว




 

     อะไรมันจะแปลกๆ กันขนาดนี้นะ  ดูความน่ารักของสัตว์เลี้ยงก็แล้วกันนะ


วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

2 หนูน้อยนักเต้นชาวรัสเซีย Mihai Ungureanu และLonela Tarus



วันนี้  มาดูความน่ารักของหนูน้อย 2 คน วัย 6 ขวบ ผู้ชายชื่อ Mihai Ungureanu  และผู้หญิงชื่อ Lonela  Tarus เป็นชาวรัสเซีย   เขาทั้งสองมีความสามารถในการเต้นที่น่าประทับใจมาก






 ชุดที่สอง  เป็นการเต้นแข่งขันซึ่งเป็นเรื่องราวน่ารักมาก




และเรามาดูคลิปการแสดงกันดีกว่า



ดูความสามารถในปี 2014 กันดีกว่า พวกเขาโตขึ้น เก่งขึ้น




          ตัวแค่นี้สามารถเต้นได้ขนาดนี้ นับว่ามีความอดทนสูงสุด ถ้าไม่มีใจรักจริงๆ
โอกาสที่จะเต้นได้ขนาดนี้ยากมาก  
          นับว่าเป็นข้อคิดสำหรับคนที่อยากทำ สิ่งที่ตัวเองชอบ(ในทางที่ดีนะจ๊ะ)
แล้วยังลังเลอยู่ ขอบอกได้คำเดียวเลยว่า ลุยให้เต็มร้อยเลย ผลสำเร็จจะเป็นอย่างไร
ก็ช่าง.... ขอให้ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักก็แล้วกัน  .....

วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

นักวิ่งข้ามรั้ววัย 19 Michelle Jenneke ดังเพราะท่าเต้นวอร์มอัพ ก่อนวิ่ง


ไม่น่าเชื่อว่าสาวน้อยน่ารักคนนึงจะดังเพราะท่าเต้นวอร์มอัพของเธอได้  แต่ดูแล้ว
ท่าทางเธอก็น่ารักจริงๆ




                  20 ก.ค.55 มิเชลเล่ เจนเนเก้ นักวิ่งข้ามรั้วสาวชาวออสเตรเลียวัย 19 ปี ทำให้โลกอินเตอร์เน็ตร้อนระอุเมื่อภาพที่เธอวอร์มร่างกายด้วยการเต้น ก่อนการแข่งขัน IAAF เวิร์ลด์ จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพที่บาเซโลน่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
                         มิเชลเล่ ซึ่งรวบผมผูกโบว์สีเขียวไว้ด้านหลัง ได้ส่งยิ้มขณะกระโดดขึ้น-ลง
ส่ายสะโพก และโบกมือให้ผู้ชม และปรากฎว่า เมื่อคลิปนี้ถูกนำไปโพสต์ในยูทู้บเมื่อวานนี้
ได้มีผู้เข้าชมเกือบ133,000 คน เว็บไซท์ บลีชเชอร์ รีพอร์ต รายงานว่า คลิปต้นฉบับถูก
โพสต์บล็อกกีฬา วิธลีธเทอร์ เป็นภาพการวอร์มร่างกายของมิเชลเล่โดยไม่มีการตัดต่อ
ระบุว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้ตั้งสมญาให้เธอว่า " นักวิ่งข้ามรั้วที่ร้อนแรงที่สุดอย่างที่ไม่เคย
มีมาก่อน " (The Hottest Hurdler Ever)
                         แต่หลังจากนั้น คลิปของมิเชลเล่ ได้ถูกนำไปปรับให้เป็นภาพสโลว์
และใส่เพลงประกอบ ก่อนจะตามด้วยภาพเธอวิ่งกระโดดข้ามรั้วและเข้าเป็นที่หนึ่ง และ
ทำให้มีคนเข้าไปชมมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่ง บอกว่า มีนักวิ่งข้ามรั้วหญิงคนใหม่
ให้เชียร์แล้ว สาวน้อยมิเชลเล่ เต้นก่อนคว้าชัยชนะ ส่วนอีกคนหนึ่งยกย่องว่า เธอเป็น
นักวิ่งข้ามรั้วที่ร้อนที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
                         แต่ก็มีคนทวี้ตในเชิงเห็นต่างว่า คงจะไม่มีใครรู้จักมิเชลเล่ ถ้าเธอไม่
กระโดดขึ้น-ลงอย่างในคลิป แต่สื่อของออสเตรเลีย ยังไม่ได้เห็นใด ๆ ต่อซูเปอร์สตาร์
นักวิ่งข้ามรั้วสาว

                         แม้จะคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิคเยาวชน 2010 แต่มิเชลเล่
กลับไม่ได้เป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติออสเตรเลียไปแข่งขันโอลิมปิค 2012 ที่ลอนดอน
ที่จะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์หน้า แต่ก็มีโอกาสสูงที่เธอจะได้ไปแข่งในโอลิมปิค 2016
 ที่บราซิล เธอได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาข้ามรั้วหญิงระยะ 100 เมตร ที่ประสบความสำเร็จ
อย่างสูง และตอนนี้เธอโด่งดังในเรื่องท่าที่ใช้ในการวอร์มร่างกาย

และจากการกระทำครั้งนี้มองได้หลายมุม อาจจะเป็นปกติของเธอ 
หรืออาจอยากดัง ก็แล้วแต่จะมอง โชคดีที่เธอประสบความสำเร็จด้วยเวลา 13.52                        
ถ้าเธอไม่ประสบความสำเร็จในการวิ่งครั้งนี้  อาจจะมีคนมองไปอีกมุมนึงเลย  
ถ้าดูจากคลิบทั้งหมดจะเห็นว่าเธอเป็นสาวน้อยน่ารัก 
อารมณ์ดี จริงจังดูจากที่เธอวิ่ง
อย่างตั้งใจมาก และหลังจากนั้นเมื่อเพื่อนมาจับมือแสดงความยินดีด้วย

เธอยิ้มแล้วเข้าไปกอดแทนที่จะแค่จับมือ 

มาดูคลิปที่ยังไม่ได้ตัดต่อของเต็มที่มีเสียงพากย์ด้วย แต่ไม่มีเสียงเพลงประกอบนะ



อ่านข่าวเพิ่มเติม ข่าวภาษาอังกฤษ  

ส่วนเพลงประกอบคลิปแรกก็คือ Boys - Summertime Love ของ Sabrina Salerno 

Boys, Boys, Boys

Boys, boys, boys
Boys, boys, boys
Boys, boys, boys
Boys, boys, boys

Sunshines down
So come to town
Set your body free
Hold me tight
My love tonight
Tell me you believe
Everybody, summertime love
You'll remember me
Everybody, summertime love
Be my lover, be my baby

Boys, boys, boys
I'm looking for a good time
Boys, boys, boys
Get ready for my love
Boys, boys, boys
I'm looking for the good time
Boys, boys, boys
I'm ready for your love

Stay around
The sun goes down
Babe I'm feeling right
Take a chance
With love romance
Have some fun tonight

** Everybody, summertime love
You'll remember me
Everybody, summertime love
Be my lover, be my baby

Boys, boys, boys
I'm looking for a good time
Boys, boys, boys
Get ready for my love
Boys, boys, boys
I'm looking for the good time
Boys, boys, boys
I'm ready for your love**

Boys and girls in the summertime love
Summertime love on the beach tonight
Say hey, say you, say me, say what
Everybody has gotta car   Don't stop, don't move
I just get your body in the groove
I said hey, I said who
I said me, I say you gotta get in the groove

Boys, boys, boys
In the summertime love, in the summertime love
Boys, boys, boys
Let's summertime roll, let's summertime roll
Boys, boys, boys
In the summertime love, in the summertime love
Boys, boys, boys
Let's summertime roll, let's summertime roll

**.....**

ดูแล้วชื่นใจจัง    ช่างผิดกับพฤติกรรมของนักวิ่งบางคนที่เป็นข่าวเหมือนกัน



นักวิ่งชาวฝรั่งเศส Mahiedine Mekhissi-Benabbad ผลักมาสคอตสาว
วัย 14 ปี เสียเกือบล้ม 
แบบไม่มีเหตุผล ซึ่งงานนี้เล่นเอาคนดูทั้งสนาม 
งงกับพฤิตกรรมแย่ๆของนักวิ่งรายนี้ไปตามๆกัน เพราะไม่รู้ว่าไปอารมณ์
เสียอะไรมา ทั้งๆที่เพิ่งจะชนะเหรียญทอง การแข่งวิ่ง 3,000 the European 
Championship มาแท้ๆ บอกได้คำเดียวว่า กรรม ....แทนที่จะได้รับการชื่นชม
กับชัยชนะที่เพิ่งได้มา.....กลับได้รับการประนามกับมารยาทเช่นนี้ 

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“ทีมแตงไทย” จากมหิดล นำผลงาน Verdant Fantasy คว้าแชมป์โลก สาขาออกแบบเกม





ตัวแทนเยาวชน “ทีมแตงไทย” จากมหาวิทยาลัยมหิดล นำผลงาน Verdant Fantasy
คว้าแชมป์โลก สาขาออกแบบเกม  จากการแข่งขันซอฟต์แวร์ระดับโลก ไมโครซอฟท์
อิมเมจิ้น คัพ 2012 ณ กรุงซิดนีย์ ออสเตรเลีย คว้าเงินรางวัลกว่า 2.5 แสนบาท…


การแข่งขัน Imagine Cup Worldwide Finals ปี 2012 โดยบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น
 
ซึ่งจัดที่ 
Sydney Convention and Exhibition Centre กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระหว่าง
วันที่ 
6-10 ก.ค.2555 มีทีมเข้าร่วมแข่งขันมาถึง 106 ทีมจากทั่วโลก  โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น
 
2  ประเภท คือ ประเภทการออกแบบซอฟต์แวร์ (Software Design) และประเภทออกแบบเกม
(
Game Design)
 

โดยประเทศไทย ส่งสองทีมตัวแทนจากการแข่งขันในระดับประเทศ  Imagine Cup Thailand 2012 ที่มีผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย บริษัทโนเกีย
(ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท จันวาณิชย์ จำกัด
  ได้แก่ ทีมแตงไทย (Tang Thai) จากมหาวิทยาลัยมหิดล ตัวแทนในสาขาออกแบบเกม และทีมโนวิทัท (Novitat) จาก
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตัวแทนในสาขาซอฟต์แวร์ ดีไซน์ (
Software Design)
และผลการแข่งขันปรากฏว่า



ประเภทออกแบบเกม (Game Design)   ทีมแตงไทย(Tang Thai) ของไทย ซี่งสมาชิก
ประกอบด้วย นักศึกษาจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล 
คน
 ได้แก่ นายกฤตินันท์ สิโรดม นายชนกานต์ ชินชัชวาล นายศิริศักดิ์ นาคะวิวัฒน์ และ
นายปนาวุธ พวงศิลป์
 ได้รับเงินรางวัลมูลค่ากว่า 
256,000 บาท (US$ 8,000)  ซึ่งเป็นตัวแทน
จากประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันประเภทการออกแบบเกม (
Game Design) ในชื่อผลงาน ‘Verdant Fantasy’ (เวอร์แดนท์ แฟนตาซี)  ซึ่งเกมเวอร์แดนท์ แฟนตาซี ที่เป็นเกมวางแผน
ประเภท 
RTS (Real-Time Strategy) ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นคนที่ได้รับเลือกให้มาช่วย
ปกป้องป่าไม้จากการรุกรานของหุ่นยนต์และมอนสเตอร์
  ซึ่งศัตรูเหล่านี้ได้เกิดมาจากอาณาจักร
ขยะที่มนุษย์ได้นำสิ่งปฏิกูลต่างๆ มาทิ้งไว้
  โดยปราศจากการดูแลอย่างเป็นระบบ  ตัวเกมได้
สอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ส่งผลต่อทรัพยากรป่าไม้ผ่านทางการออกแบบตัวมอนสเตอร์แต่ละตัว เช่น การเผาถางป่าเพื่อบุกรุกพื้นที่ การลักลอบตัดไม้ เป็นต้นรูปแบบการเล่นของเกมคือ
 ผู้เล่นต้องควบคุมตัวละคร ในการโจมตีศัตรู เพื่อขัดขวางไม่ให้ศัตรูเข้าไปทำลายต้นกล้าศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งเปรียบเสมือนฐานหลักของผู้เล่นได้ หากผู้เล่นสามารถต้านทานการบุกรุกในแต่ละด่านได้
ก็จะได้รับชัยชนะ แต่ถ้าต้นกล้าศักดิ์สิทธิ์โดนทำลายผู้เล่นก็จะแพ้
ส่วนประเภทการออกแบบซอฟต์แวร์ (Software Design)  รางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน
ประเภทการออกแบบซอฟต์แวร์ะดับโลกนี้
  รางวัลได้ตกเป็นของทีม quadSquad จาก
ประเทศยูเครน
นอกจากนี้ ทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันระดับโลกที่ Imagine Cup ที่ประเทศออสเตรเลีย
จะได้รับเงินสนับสนุนในการพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 
ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือ (ประมาณ 
95 ล้านบาท).

พวกคุณเก่งจริงๆ  เราขอชื่นชมอย่างจริงใจ และที่น่าประทับใจก็คือประเทศไทย
ได้รางวัลชนะเลิศในการออกแบบเกม เป็นปีที่ี 2  แล้ว  

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วงโยธวาทิตเยาวชนจังหวัดพิษณุโลกได้แชมป์โยธาวาทิตโลก ณ ประเทศเเคนาดา





                              วงโยธวาทิตโรงเรียนจ่าการบุญและเยาวชมจังหวัดพิษณุโลก คว้าแชมป์            Junior Band. Champion  ในการแข่งขัน World. Association of. Marching Show Band 2012 Championship.ที่ประเทศแคนาดา โดยในปีนี้มีประเทศส่งเข้าแข่งขัน 7 ประเทศ. ได้แก่ เยอรมัน ไต้หวัน อเมริกา แคนาดา เดนมาร์ก สวีเดน และไทย รวม 12 ทีม โดยมีทีมเยาวชนของจังหวัดพิษณุโลก เป็นตัวแทนประเทศไทย ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และได้รับรางวัลชนะเลิศซึ่งทำให้         วงโยธวาทิตเยาวชนทีมจังหวัดพิษณุโลก ได้สิทธิ์ในการป้องกันแชมป์ World Association of Marching Show Band 2013 Championship ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป นอกจากนี้ทีมวงโยธวาทิตของไทย ยังคว้ารางวัลชนะเลิศใน การประกวดแข่งขันประชันกลองเป็นหนึ่งในการแข่งขันวงโยธวาทิตโลก ที่มีผู้เข้าแข่งขันจาก 3 ประเทศ คือแคนนาดา. ออสเตเรียและไทย อีกหนึ่งรางวัลด้วย

ดูคลิปการแสดงจากข้างล่างนี้ค่ะ

ข่าววันก่อนได้แชมป์



ข่าววันได้แชมป์



           เก่งมากค่ะ ขอชื่นชมคนเก่งและผู้ฝึกซ้อมค่ะ  ถ้าไม่มีผู้ฝึกซ้อมที่ทุ่มเท
อดทน
และเก่งเช่นพวกคุณ  วันแห่งความสำเร็จนี้ไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน
ถ้าพวกคุณเป็นข้าราชการ
ผู้บริหารควรให้ขวัญและกำลังใจอย่างมากแก่พวกคุณค่ะ
และฝากน้องๆเยาวชนที่เข้าแข่งขัน
ถ้าไม่มีผู้ฝึกซ้อมเก่งๆและอดทนอย่างนี้
พวกน้องๆก็คงไม่มีวันนี้แน่นอน .....

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เหรียญเงินโอลิมปิกรุ่นเยาวชน









คณะนักร้องประสานเสียงจุฬดาร์  จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    ได้เข้าแข่งขันโอลิมปิกรุ่นเยาวชนใน "มหกรรมขับร้องประสานเสียงโลก"World Choir 
Games 2012 ระหว่างวันที่ 4 – 14 กรกฎาคม 2555 ที่ Cincinnati, USA 
ในสาขา Mixed Youth Choirs และ Musica Sacra ประเภท Champion
Competition
และได้เหรียญเงินจากการแข่งขันทั้ง 2 สาขา ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 
300 กว่าวงคอรัสเยาวชนทั่วโลก 




เก่งมากค่ะ ขอชื่นชมจากใจ

ความสามารถของหมาน้อย Pudsey กับเจ้าของ Ashleigh

วันนี้  มาดูความน่ารักของน้อง มะหมา ที่แสดงความสามารถกับเจ้าของได้อย่างน่าประทับใจ


ชุดแรกเป็นการแสดงของ Pudsey หมาน้อย กับ Ashleigh  สาวน้อยผู้เป็นเจ้าของ 
ต่อหน้ากรรมการรอบแรก


ประทับใจกรรมการมาก ผ่านเข้ารอบ semi- final 


เรามาดูความรักความผูกพันและการแสดงครั้งนี้



และเข้าสู่ รอบ final  

เรามาดูกันว่าการแสดงจะเป็นอย่างไร 


และในที่สุดทั้งสองก็ได้เป็น The winner




ภาพและคลิปจาก https://www.youtube.com

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

GERONIMO น้องหมานักกระโดดเชือก

เจ้า GERONIMO น้องหมาจอมกระโดดเชือก
โดยปกติ การกระโดดเชือกเป็นเรื่องของคน ที่มองว่าการประโดดเชือกเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีมเพื่อความสนุกและออกกำลังกาย เพราะเล่นคนเดียวไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมี 3  คน ถึงจะเล่นได้ แต่บางครั้งมี 2 คนก็เล่นได้โดยการมัดเชือกไว้ข้างหนึ่งกับเสา หรืออะไรก็ได้ที่แข็งแรง ไม่งั้นแทนที่จะสนุกอาจจะทุกข์เพราะเสาล้มใส่ก็ได้ 


งานนี้ที่เป็นข่าวนี่ก็เล่นเป็นทีมเหมือนกัน แต่เป็น 2 คน กับ  1  ตัว


คนน่ะผู้หญิงชื่อ  Samantha Valle   ส่วนผู้ชายชื่อ Scott  Greeny  Levy  อยู่ที่ Long Island New York          ส่วนสุนัขตัวเก่งชื่อ GERONIMO เพศเมีย อายุ  2  ปี  แล้วจะเห็นมีแผ่นไม้วางอยู่ตรงกลาง Samantha บอกว่า เป็นตำแหน่งที่ เจ้า MO จะได้รู้ว่า ตรงกลางของเชือกที่จะโดดอยู่ตรงไหน  ลองดูคลิปการกระโดดของเจ้า  Mo นับว่าสุดยอดจริงๆ  คน(บางคน)ยังอายเลย
เพราะเจ้าหล่อน กระโดดเชือก ไม่ใช่เส้นเดียวนะแต่เป็น 2 เส้นขั้นเทพจริงๆ และเจ้าหล่อนก็ชอบด้วยดูจากสีหน้าและท่าทางในการกระโดดเชือก   ดูข้างล่างนี้เองก็แล้วกันนะ




งานนี้ใครเก่งกันแน่ระหว่างคน กับ สุนัข  ....ก็ต้องคนอยู่แล้ว เพราะเป็นคนฝึกให้ GERONIMO เล่นจนประสบความสำเร็จอย่างนี้   ขอชื่นชมคนฝึกนะ คุณทั้งสองคน สุดยอดจริงๆนะ



วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หนังสั้น ในความผูกพันของฉันกับรถไฟไทย


การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดโครงการประกวดหนังสั้นภายใต้แนวคิด “ในความผูกพัน
ของฉันกับการรถไฟไทย”
 
 โดยมีที่ส่งเข้าประกวดหนังสั้นกว่า 70 เรื่อง ได้คัดเลือก
และตัดสินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลมีดังนี้


นางสาวสมกมล แซ่โง้ว และ นายบดินทร์  ไชยสมบัติ สองนักศึกษาจากวิทยาลัยเพาะช่าง
เจ้าของผลงานเรื่อง “รางบันดาลใจ” คว้ารางวัลภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยมไปครอง


สำหรับรางวัลภาพยนตร์สั้นยอดนิยม (ป๊อปปูล่าโหวตที่ได้รับการกดไลค์มากที่สุด
ในหน้าเว็บยูทูบ) เป็นผลงานของทีม “ฟินวิ่ว สตูดิโอ” จากผลงานเรื่อง “ฉันนั่งรถไฟ
ไปเยี่ยมแม่” โดยสองหนุ่ม นายอาทิตย์ เคนชมพู วัย 22 ปี และ นายจอมพล ดอนนอก
วัย 22 ปี


ดูหนังสั้นที่ได้รางวัลและเรื่องที่ประทับใจข้างล่างนี้ค่ะ


เรื่องแรกคือ เรื่อง รางบันดาลใจ  เป็นเรื่องการเดินทางของผู้หญิงคนหนึ่ง



เรื่องที่สองคือ เรื่อง ฉันนั่งรถไฟไปเยี่ยมแม่ ได้ป๊อปปูล่าโหวต  การรถไฟไม่ได้เป็นคนตัดสิน
นะแต่เป็นคนที่ดู 
youtube ให้ต่างหาก เป็นเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งรถไฟเพื่อไปเยี่ยมแม่
ชื่อเรื่องก็บอกชัดเจนและเรื่องก็บรรยายบรรยากาศของรถไฟได้ชัดเจนเช่นกัน





เรื่องที่ สามคือเรื่อง ปลายรางรถไฟ   เรื่องนี้ดูแล้วประทับใจมาก แต่ไม่ได้รางวัล 
เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายแก่คนหนึ่งที่พาภรรยาขึ้นรถไฟไประลึกความหลัง และส่ง
ภรรย
าเป็นครั้งสุดท้าย ดูแล้วทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรที่จีรัง  ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
กับคนใกล้ตัวก็พอ






ก็ถือว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งที่ทำให้เราดูหนังสั้นดีๆอีกหลายสิบเรื่อง
และทำให้เรารู้ว่า
คนหนุ่มสาวของเราก็มีความสามารถมากมากไม่แพ้ชาวต่างชาติ

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ธนัช อัจฉริยะฟันน้ำนม



 วันนี้เรามารู้จักเด็กอัจฉริยะชาวไทย วัย 10 ขวบกันดีกว่า


            เมื่อ พูดถึง "ด.ช.ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี" เชื่อว่ามีทั้งคนรู้จัก และไม่รู้จัก แต่ถ้าหากใครได้เคยติดตามข่าวเมื่อหลาย ๆ ปีก่อน เขาคือเด็กชายที่มีความสามารถรอบด้าน โดยเฉพาะการ เดี่ยวไวโอลิน ที่เคยสร้างสถิติที่มีผู้ชมสูงถึง 18 ล้านครั้งในยูทูปมาแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยวัยเพียง 4 ขวบ (น้องธนัชเกิดวันที่ 9 ก.ย. 2545 ) เขาสามารถจัดนิทรรศการแสดงภาพศิลปะเดี่ยว Solo Art Exhibition ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนในปี 2549 ที่ สำคัญ ทุกชิ้นงานของเขามีความเป็นสากลจนสามารถสร้างสถิติการประมูลที่น่าทึ่ง และประสบความสำเร็จตั้งแต่ชิ้นแรกของการนำผลงานออกทำการประมูล และด้วยแรงประมูลแข่งขันกันของผู้ซื้อ ทำให้ราคาสูงขึ้นไปถึง 5 เท่าของราคาตั้งครั้งแรก หรือมีราคาขายสูงมากกว่า 20 เท่าของราคาที่เคยขายในประเทศไทยจนชาวต่างชาติพากันทึ่งกับความสำเร็จในครั้งนั้น     
          และที่อึ้งทึ่งไปกว่านั้น ผลงานทางศิลปะของเขาได้มีนักสะสมทั่วโลกซื้อไปสะสมมากกว่า 1 พันภาพจนได้รับฉายา "ปิ กัสโซ่น้อย" ทำให้สื่อต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจ สัมภาษณ์เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ รายการโทรทัศน์หลายครั้งหลายหน นอกเหนือจากความสามารถข้างต้นแล้ว ธนัชยังมีความสามารถด้านดนตรี กีฬา ภาษาอังกฤษ และยังสนใจเรื่องดาราศาสตร์ กอล์ฟ และมวยไทยอีกด้วย แต่ทั้งหมดที่หลายคนเรียกมันว่า "พรสวรรค์" เหล่านี้จะเจิดจรัสไม่ได้เลย ถ้าไม่มีคุณพ่อธนู และคุณแม่วัชราภรณ์คอยส่งเสริม และสนับสนุนอย่างเต็มที่ คุณแม่วัชราภรณ์ เริ่มต้นเล่าให้ ทีมงาน Life & Family ฟังถึงจุดเริ่มต้นของพรสวรรค์ในตัวลูกชายคนนี้ว่า "หูทางดนตรี" เป็นพรสวรรค์แรกของลูกที่เธอสังเกตได้ตั้งแต่ยังเล็ก


                


"สิ่งแรกที่แม่เจอคือหูทางดนตรี คือวันหนึ่งแม่เปิดเพลงเด็ก ๆ ร้องว่า C-o-c-o-n-u-t Coconut เป็นภาษาอังกฤษให้ลูก ฟังขณะที่แม่ก็ขับรถไปเรื่อย ๆ ธนัชตอนนั้นเพิ่งจะอายุได้หนึ่งขวบกับสิบเดือน นั่งอยู่ใน Child Seat ที่เบาะหลัง เขาบอกแม่ว่า หม่ามี้ เพลงนี้เหมือนกับเพลง Alouette เลย (Alouette เป็น เพลงสำหรับเด็กเป็นภาษาฝรั่งเศส) ถ้าแม่ไม่ได้ใส่ใจ คิดเพียงว่าเป็น เพียงประโยค ๆ หนึ่งที่ลูกเล็ก ๆ เอ่ยออกมา เราอาจไม่ได้เห็นธนัชเล่นดนตรี แต่วันนั้น แม่ฉุกใจคิดว่า เอ๊ะ ถ้าเด็กแค่ขวบสิบเดือน บอกผู้ใหญ่อย่างเราได้ว่า เพลงสองเพลง ร้องกันคนละภาษาเลย แต่ใช้ทำนองเดียวกัน เขาต้องมีหูทางดนตรีที่ดีแน่เลย แต่ก่อนอื่น แม่ต้องพิสูจน์ก่อนว่าลูกพูดถูกหรือเปล่า แม่ก็รีบหาที่จอดรถ แล้วตั้งใจฟังเพลง ปรากฏว่าถูกของลูก เมื่อกลับถึงบ้านก็ตื่นเต้นบอก คุณพ่อ ต่อจากนั้นเราก็ยังทดสอบเพลงอื่น ๆ อีกหลายเพลง ลูกตอบได้หมดเลย เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่าดนตรีนี่ใช่"     
          พอเริ่มค้นพบเรื่องดนตรี และมั่นใจว่าลูกมีศักยภาพทางด้านนี้ ทั้งตัวเธอและสามีก็พยายามส่งเสริมลูกอย่างเต็มที่ "เรา เปิดเพลงให้เขาฟัง และพาเขาออกไปเห็นการแสดงจริง ไปพบนักดนตรีขณะเล่น เราพาธนัชไปดูโอเปร่าตั้งแต่สองขวบ ลองนึกภาพเด็กสองขวบ นั่งอยู่ในโรงละครไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง โอกาสที่พ่อแม่ลูกจะดูการแสดงโดยที่ลูกไม่ยุกยิกรบกวนคนอื่นนั้นค่อนข้างยาก แต่ธนัชอยู่ได้ นั่งดูอย่างตั้งอกตั้งใจ ตั้งแต่สองทุ่มซึ่งปกติจะเป็นเวลานอนของเขา จนโอเปร่าจบตอนห้าทุ่ม พอเราเห็นเขาดูได้ เราก็พาเขาออกบ่อยขึ้น ไปชมวงออร์เคสตรา จนเขาเป็นคนบอกว่าเขาอยากเล่นไวโอลินเมื่อตอนอายุได้สามขวบครึ่ง ก็เริ่มเรียนแล้วพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ มาจนถึงทุกวันนี้"     
          หลังจากนั้น เธอ และสามีก็ค่อย ๆ สังเกต และสนับสนุนความสามารถด้านอื่น ๆ ของลูกตามมาทั้งศิลปะ กีฬา ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ "สิ่ง ที่เราพบ มันไม่ได้มาพร้อม ๆ กัน แต่ค่อย ๆ มา ตามความเหมาะสมของวัย ความพร้อมของร่างกาย พัฒนาการทางสมอง เราพบศักยภาพทางภาษาก่อนตั้งแต่ธนัชอายุไม่ถึงขวบ เขาก็พูดได้ 2 ภาษาด้วยหลาย ๆ พยางค์ ตามด้วยดนตรีกับศิลปะ พอโตขึ้น เรายังได้พบความสามารถทางการพูดในที่สาธารณะ (public speaking) และวิชาการอื่น ๆ อีกโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ "ดัง นั้น ไม่ต้องมีญาณพิเศษสำหรับการเลี้ยงลูก แต่พ่อแม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่บางครั้งอาจดูเล็กน้อยไม่สำคัญ เพราะเวลาที่ลูกฉายแววบางอย่างออกมา อาจมาเพียงแวบเดียว แล้วก็ผ่านไป ถ้าเราไม่ทันสังเกต เราอาจไม่พบ และเมื่อเราพบอะไรบางอย่าง อาจจะใช่และไม่ใช่ พ่อแม่ต้องเอามาคิดต่อว่าจะทดสอบอย่างไรว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่ แล้วเมื่อพบแล้ว จะพัฒนาอย่างไร เหล่านี้ เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ทั้งพ่อและแม่ต้องประสานแรงกายแรงใจช่วยกันในทุก ๆ ก้าวที่ลูกเติบโตขึ้น" คุณพ่อธนูกล่าวพร้อมกับมีความเชื่อว่า "เด็กทุกคนมีพรสวรรค์อยู่ในตัว"     
          "นั่น คือสิ่งที่เราเชื่อเสมอ พ่อแม่ทุกคน ถ้าเชื่ออย่างนี้ เมื่อพบพรสวรรค์ของลูกแล้วหาวิธีพัฒนา ถ้าพัฒนาเองไม่ได้ ต้องหาผู้เชี่ยวชาญ และต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พรสวรรค์นั้นก็จะส่งประกายเจิดจรัสออกมาครับ ถ้าพ่อแม่ให้เวลากับลูก เฝ้าทะนุ ถนอมเลี้ยงดูและสังเกตลูก พ่อแม่ก็จะเห็นว่าลูกจะทยอยส่งสัญญาณให้พ่อแม่รู้ว่า เขาชอบ และมีความสุขเมื่อได้ทำอะไร" คุณพ่อธนูขยายความถึงความเชื่อข้างต้น     
          เผยเทคนิคเลี้ยงลูกให้เก่ง และมีความสุข     
          คุณ พ่อธนูกล่าวต่อไปว่า การเลี้ยงลูกให้เก่ง และดีนั้น บทหนักอยู่ที่พ่อแม่ที่ต้องเรียนรู้ไปกับเขาในสิ่งที่เขาอยากทำ หากลวิธี มีระเบียบวินัย และสร้างแรงจูงใจให้เขาฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ให้เขารู้สึกสนุกสนาน และรู้ว่าพ่อแม่อยู่เคียงข้างเขา คอยเป็นกำลังใจให้เขาเสมอ "ธนัชเป็นเด็กคนเดียวของ บ้าน ดังนั้นเราไม่ได้เทียบว่าลูกเราพิเศษกว่าเด็กอื่น เราเพียงแต่พบว่าลูกมีสิ่งใดมากับตัว สิ่งใดที่เขาชอบ แล้วเราก็พัฒนาเขาตั้งแต่เล็กซึ่งเป็นช่วงที่พัฒนาการทางร่างกาย ใยสมอง อารมณ์ ความกระตือรือร้นที่อยากจะเรียนรู้ของเขามีเต็มเปี่ยม ประกอบกับเวลาในขณะนั้นของลูกก็ยังมีอยู่อย่างเหลือเฟือ เมื่อใส่สิ่งที่ถูกต้องกับความชอบของลูกด้วยวิธีการอันเหมาะสม และต่อเนื่อง ผลลัพธ์ก็ออกมาดีเอง" คุณพ่อธนูเผย

             
ด้วย การเป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในหลาย ๆ เรื่อง ความคาดหวังของพ่อแม่ย่อมต้องมีมากขึ้นตามไปด้วย แต่สำหรับครอบครัวนี้ พวกเขามีความหวังเหมือนพ่อแม่ทั่ว ๆ ไปที่อยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ เป็นเด็กดี ดูแลตัวเองได้ และสามารถดูแลและเป็นที่พึ่งให้พ่อแม่ยามสูงวัยได้ในอนาคต "เรา ก็คงเหมือนกับพ่อแม่ทั่ว ๆ ไป ที่อยากเห็นลูกประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาทำ เป็นในสิ่งที่เขาอยากเป็น และมีความสุขในชีวิต เราพยายามที่จะให้เขาเติบโตเล่าเรียนในประเทศไทยนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะได้มีโอกาสซึมซับทัศนคติ ค่านิยม และความเป็นไทยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ" คุณพ่อธนูเผย     
          แม้ วันนี้ด.ช.ธนัชจะกลายเป็นเด็กมีชื่อเสียง มีความสามารถ และเก่งในหลาย ๆ ด้าน แต่คุณลักษณะนิสัยดี ๆ ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมคือสิ่งที่บ้านนี้ให้ความสำคัญมาก "เรา ยังต้องดูแลไม่ให้เขาลืมตัว หรือหยิ่งยโส ธนัชยังคงได้รับการปลูกฝังให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ ถึงแม้เขาสามารถเรียนรู้ในระดับที่สูงกว่าอายุ แต่เรายังคงให้ความสำคัญกับวัยเด็กของเขา เขายังต้องได้เล่นสนุก ตามวัย ตามจินตนาการของเขาอย่างที่เด็กในวัยนี้พึงมี เพราะเราตระหนักดีว่าเขาเป็นเด็กได้เพียงครั้งเดียว ส่วนเวลาที่จะเติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่นั้นยังมีอีกยาวไกล เราจึงพยายามรักษาช่วงเวลาที่ดีที่สุดนี้ของเขาให้นานที่สุด เขายังเล่นกับคุณพ่อคุณแม่แบบเด็ก ๆ ยังกระโดดกอดคอ ขี่หลัง จักจี้ และเล่นอะไร ๆ แบบเบสิค แต่ก็ให้ความสุขสำราญกันทั้งครอบครัว" คุณแม่วัชราภรณ์เล่า
     
          วันสบายๆ สไตล์น้องธนัช     
          สำหรับ ตัวตนของธนัช คุณพ่อธนูเป็นตัวแทนบอกเล่าให้ฟังอย่างละเอียดว่า ธนัชเป็นเด็กแจ่มใส เบิกบาน สุภาพ อ่อนโยน ขี้เล่น มีอารมณ์ขัน ช่างพูด ช่างคุย ชอบพบปะสังสรรค์กับผู้คน กล้าแสดงออกในที่สาธารณะ และรักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ทุ
ก ๆ เช้า ธนัชจะตื่นตีห้าครึ่งด้วยเสียงหัวเราะกับคุณพ่อ เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็จะลงมาเริ่มวันใหม่ด้วยแปะก๊วยนมสดอุ่น ๆ ที่คุณพ่อเตรียมไว้ให้ แล้วจึงออกไปหน้าบ้านเพื่อออกกำลังกาย เริ่มตั้งแต่การวอร์มด้วยการยืดเส้นยืดสาย (Stretching) จาก ศีรษะถึงปลายเท้า ต่อด้วยการรำมวยจีน (ไทชิ) กระโดดเชือก วิดพื้น ถ้ายังพอมีเวลาก็ไปซ้อมพัตต์กอล์ฟ และเปียโน แล้วส่งไม้ต่อไปให้คุณแม่ที่จะต่อด้วยการซ้อมไวโอลิน ซึ่งช่วงนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง พอเสร็จก็ได้เวลาอาหารเช้า พักอาบน้ำแต่งตัว     
          หลัง จากนั้นก็เป็นเวลาของวิชาการต่าง ๆ ที่ต้องใช้สมอง และสมาธิ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และวิชาอื่น ๆ สับเปลี่ยนกันไป พอเที่ยงก็พักรับประทานอาหารกลางวัน เล่นตามอัธยาศัย แล้วต่อด้วยวิชาการที่เป็นกิจกรรม เช่น ศิลปะ การเรียนแบบ Interactive บน คอมพิวเตอร์ พิมพ์ดีดไทย-อังกฤษ ช่วงบ่ายก็จะมีการออกกำลังกับคุณพ่อ เช่น แบดมินตัน หรือซ้อมชกเป้าแบบมวยไทยตามแต่ที่เขาอยากจะเล่น ก่อนอาหารเย็นก็จะซ้อมไวโอลินอีกรอบ เสร็จจากทานอาหารเย็น พักผ่อนดูรายการสารคดีทางโทรทัศน์ เล่นตามอัธยาศัย ทุ่มครึ่งถึงสองทุ่ม เตรียมอาบน้ำเพื่อเข้านอน     
          แต่ก่อนเข้านอน ธนัชจะมาทบทวนคำศัพท์ด้วยการเขียนไทยและอังกฤษ วัน 10 คำ และเขียนเรียงความ (Essay) ความยาว 15 บรรทัด จบวันด้วยเสียงหัวเราะกับคุณพ่อ ด้วยการเล่นแบบเด็กผู้ชาย มวยปล้ำที่สนุกสนานสร้างเสียงหัวเราะไปไกลถึงคุณแม่ที่กำลังทำความสะอาดห้อง ครัว แล้วจึงเข้านอนหลับไปด้วยรอยยิ้ม นอกจากเวลาเรียนรู้ในบ้านแล้ว คุณพ่อเล่าต่อไปว่า บางวันก็จะพากันออกไปเรียนรู้นอกสถานที่ ทั้งสวนสาธารณะในตอนเช้าเพื่อวิ่งเล่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เข้าห้องสมุดท่านพุทธทาส ไปเรียนพิเศษกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น เรียนกับอาจารย์สอนไวโอลิน ส่วนกิจกรรมต่าง ๆ ก็อาจต้องปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม ปัจจุบันธนัชอายุ 9 ขวบ ออกมาจากระบบโรงเรียนตอนประถมศึกษาปีที่ 3 แล้วมาเรียนในระบบโฮมสคูล (Home School) อยู่ ที่บ้าน โดยจดทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภายใต้สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งคาดว่า ในปีหน้า ธนัชจะสามารถรับการประเมินเพื่อจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เนื่องจากธนัชเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำ ให้ความรู้ทางวิชาการหลายวิชาของเขาพัฒนาไปจนถึงระดับมัธยมแล้ว     
          ด้วย ความที่ธนัชทำอะไรได้ในระดับดีเยี่ยมในหลาย ๆ ด้าน ทำให้ยังยากที่จะตอบว่าเขาจะเป็นอะไรในอนาคต ในฐานะพ่อแม่ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในขณะนี้คือ สนับสนุน ส่งเสริม เปิดโอกาส ให้เขาได้เรียน ได้ลอง ได้สัมผัส มีประสบการณ์ในสิ่งที่เขาสนใจและอยากเรียนรู้ "พ่อ แม่เป็นผู้นำทาง และชี้ให้เห็นถึงหนทางก้าวหน้าในแต่ละอาชีพ แต่การตัดสินใจสุดท้ายคงอยู่ที่ตัวเขา ซึ่งเราคำนึงถึงความสมดุลในทุก ๆ ด้านเป็นปัจจัยสำคัญ การพัฒนาลูก เราไม่ได้มุ่งแต่วิชาการหรือความสามารถ แต่เรายังคำนึงถึงคุณธรรมในจิตใจที่ต้องระลึกเสมอว่าการเป็นคนดี สำคัญกว่าการเป็นคนเก่ง และต้องมีความกตัญญูควบคู่ไปด้วย" นี่คือสิ่งที่คุณพ่อธนู และคุณแม่วัชราภรณ์ มองว่า ชีวิตคือของลูกไม่ใช่พ่อแม่เป็นผู้ชี้ขาด
       
          ท้าย นี้ การจะพัฒนาลูกให้มีคุณภาพนั้น คุณแม่วัชราภรณ์ฝากแง่คิดไว้น่าสนใจว่า การร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ระดมสมองและความคิดของทั้งพ่อและแม่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อลูกตระหนักว่าสิ่งที่เขาทำนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง พ่อแม่เห็นความสำคัญ และให้การยอมรับ เขาก็จะทำสิ่งอื่น ๆ ตามออกมาให้เห็นเรื่อยๆส่วนคุณพ่อธนูกล่าวสั้น ๆ แต่ลึกซึ้งว่า ชีวิตนี้ทุ่มเทเพื่อลูกเพียงคนเดียว "ผม เกษียณอายุตัวเองตั้งแต่อายุสี่สิบต้น ๆ ผ่านงานมามากมายหลายสาขา ส่วนแม่เขาก็เกษียณตั้งแต่อายุสามสิบต้น ๆ เราทั้งคู่เคยทำงานในตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทใหญ่ ตอนนี้ผมเลยหกสิบไปแล้ว ส่วนแม่เขาก็ห้าสิบ เราทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับลูกรักคนเดียวของเรา หนูน้อยธนัช เปลวเทียนยิ่งทวีครับ"

ทั้ง หมดนี้ คือเบื้องหลัง และที่มาของความสามารถพิเศษด้านต่างๆ ของธนัชที่มีคุณพ่อคุณแม่คอยบริหารจัดการเวลาให้ลงตัวควบคู่ไปกับการเสริม สร้างชีวิตที่สนุกสนานตามวัย และคงไม่เกินไปนักถ้าจะบอกว่า "ความรัก" นั่นเองคือตัวจุดประกายอัจฉริยะในตัวเด็กผู้ชายที่ชื่อ "ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี" คนนี้
 From  Manager online