วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาวตัดต่อสุดทนเจ้านาย ครีเอทวีดีโอถ่ายตัวเองเต้น แทนใบลาออก !!


เพียง 5 วัน ยอดวิวของ Marina Schifrin พนักงานตัดต่อวีดีโอบริษัทแห่งหนึ่ง ทะลุไปที่  7ล้านวิวแล้ว เป็นวีดีโอแทนการยื่นใบลาออกสุดแหวกแนว เหตุที่ทำอย่างนี้เธอว่าเธอรู้สึกผิดหวังกับเจ้านาย สิ่งที่เธอทำคือเต้น เต้น และเต้นไปรอบๆออฟฟิศ พร้อมกับข้อความที่ค่อยๆ ปรากฎบนวีดีโอ


ข้อความว่า

ฉันมาทำงานตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง ทำงานให้กับบริษัทสุดเจ๋งผลิตวีดีโอ

เกือบ 2 ปี ฉันได้อุทิศความสัมพันธ์ เวลา และพลังงานให้กับงานนี้

และเจ้านายของฉันแคร์แค่ "ปริมาณ" และ "ได้กี่ยอดวิว"

ฉันเลยคิดทำวีดีโอของตัวเอง ให้เจ้านายรู้บ้าง ว่าฉันเลิกทำละ และ ลาก่อน


ในบล็อคของเธอเขียนอธิบายตนเองว่า มาจากนิวยอร์ก และได้งานบริษัทอนิเมชั่นที่ที่จะได้มีอิสระในการเขียนมุขตลก และยังใส่ความเป็นตัวเองในข้อเขียนได้อีกด้วย ช่างเป็นงานที่วิเศษอะไรเช่นนี้ ฉันได้พบงานที่จะผสมผสานความขำขันกับนักหนังสือพิมพ์ ฉันเคยมีสิ่งดีๆ ที่พร้อมจะกระโจนลงไปทำอย่างเต็มความสามารถ

ฉันลดการทำอะไรต่างๆ ลง เพื่องานๆนี้ ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหาคำพาดหัวที่ยอดเยี่ยม ทั้งเสียงพากษ์ และเรื่องราวต่างๆ 

แต่กลับเป็นภาระงานที่มากขึ้น เข้างานเร็ว อยู่นาน ทำงานสุดสัปดาห์ ก็เลยเข้าไปพูดกับเจ้านายว่าฉันรู้สึกอะไรบ้าง

"ทำให้ทันกำหนด ไม่ต้องมาอาร์ต" คือคำตอบของเจ้านาย
  
คำตอบนี้น่าจะเป็นที่มาของใบลาออกสุดอาร์ตของเธอเช่นกัน



(ที่มา : เดลี่เมล์) 
ข้อมูลจาก http://www.youtube.com และ http://www.matichon.co.th/

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เจลห้ามเลือดภายในจากข้าวเจ้าคว้าสุดยอดนวัตกรรมข้าว

              แผ่นเจลห้ามเลือดภายในร่างกายจากข้าวเจ้าคว้าสุดยอดนวัตกรรมข้าวปี '56 
ด้านวิสาหกิจชุมชนจากพะเยาส่ง "ข้าวกล้องลืมผัว" อบกรอบคว้ารางวัลระดับชุมชน 
ด้านเลขาธิการมูลนิธิข้าวไทยชี้มีหลายช่องทางเพิ่มมูลค่าข้าวมากกว่าขนเป็นเกวียนลงเรือ
       

                                                       แผ่นเจลกรดห้ามเลือดจากแป้งข้าวเจ้า



       มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) 
หรือ สนช. แถลงผลประกวดนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 30 ก.ย.56 ณ โรงแรม
พูลแมน บางกอก คิงพาวเวอร์ โดยเป็นการประกวดนวัตกรรมข้าวที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว
       
       สำหรับการประกวดนวัตกรรมข้าวนั้น ดร.ขวัญใจ โกเมศ เลขาธิการมูลนิธิข้าวไทยฯ แจงว่า
แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ระดับอุตสาหกรรม และระดับวิสาหกิจชุมชน เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบ
และเสียเปรียบในการแข่งขัน
       
       รางวัลระดับอุตสาหกรรมนั้น แผ่นเจลข้าวกรดห้ามเลือด "ข้าววรางกูร" จากบริษัท บุณยนิตย์
วัสดุการแพทย์ จำกัด คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 โดยเป็นแผ่นเจลที่ได้จากแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ 
นำมาดัดแปลงโครงสร้างทางกายภาพให้เป็นเจล และเพิ่มสารเติมแต่งให้มีฤทธิ์เป็นกรดเมื่อ
สัมผัสของเหลวภายในร่างกาย ทำให้ห้ามเลือดระหว่างผ่าตัดได้รวดเร็ว และย่อยสลายได้
ในร่างกาย
       
       ส่วนรางวัลอื่นๆ ในประเภทระดับอุตสาหกรรม ได้แก่ แป้งรำข้าว "คิง" ที่มีกากใยอาหารสูง 
เหมาะแก่การทดแทนแป้งสาลีและแป้งข้าวเจ้า จาก บริษัท น้ำมันบริโภทไทย จำกัด คว้ารางวัล
อันดับ 2 และลิปสติกอินทรีย์จากน้ำมันรำข้าวและไขรำข้าว "VOWDA" จาก บริษัท โป๋วเอวี๋ยน
 จำกัด คว้ารางวัลอันดับ 3
       
       สำหรับรางวัลระดับวิสาหกิจชุมชน ข้าวกล้องลืมผัวอบกรอบพร้อมทาน "i Rice" จากวิสาหกิจ
ชุมชนกลุ่มชาข้าวก่ำ (ข้าวลืมผัว) คว้ารางวัลชมเชย และเป็นผลงานเดียวที่ได้รางวัลในประเภทนี้
       
       ดร.ขวัญใจกล่าวว่าอยากให่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่งประกวดมากกว่านี้ โดยจุดแข็งที่สุดของ
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนคือด้านอาหาร แต่อยากให้พัฒนาสู่เชิงพาณิชยได้ พร้อมทั้งกล่าวว่า
นวัตกรรมข้าวเหล่สนี้เป็นตัวอย่างของการเพิ่มมูลค่าข้าวที่มากกว่าการส่งขายขึ้นเรือเป็นเกวียน
       


ภาพและข้อมูลจากhttp://www.manager.co.th/

นวัตกรรมใบมีดชาวสวนยางยืดอายุต้นได้ถึง 50 ปี



         เขาทำสวนยางมา 14 ปี พบปัญหาว่าต้นยางพาราเสียหาย ผิวหน้าปูด-นูน เป็น
ตะปุ่มตะป่ำ อันเป็นผลมาจากมีดที่ใช้กรีด เขาจึงหาไอเดียในการปรับปรุงใบมีด
กรีดยางที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว จนได้ใบมีดที่กรีดยางได้บาง ซึ่งจะช่วยยืดอายุ
ต้นยางได้ถึง 50 ปี 
       
       มะนายิ ราหู ชาวสวนยางพาราจาก จ.นราธิวาส เผยว่าการกรีดยางที่ดีต้องกรีดให้บาง 
หากกรีดกระทบ "เยื่อเจริญ" ของต้นยาง จะทำให้ "หน้ายาง" เกิดไม่ดี เป็นตะปุ่มตะป่ำ 
ปูด-นูน ซึ่งจุดด้อยของมีดเก่าคือต้องเอียงคอเวลากรีด และกินเปลือกไม้หนาถึง 3-4 
มิลลิเมตร ทำให้อายุในการกรีดต้นอย่างสั้นเหลือเพียง 25 ปี
       
       จากปัญหาดังกล่าวเขาจึงออกแบบใบมีดกรีดยางแบบใหม่ ซึ่งใช้เวลาลองผิดลอง
ถูกถึง 7 ปี จนได้มีดกรีดยางที่สามารถเปลี่ยนใบมีดได้ และกรีดยางได้บางเพียง 
1 มิลลิเมตร อีกทั้งควบคุมความลึก-ตื้นในการกรีดลงเปลือกต้นยางได้คงที่โดย
ไม่ต้องออกแรง ซึ่งจะช่วยยืดอายุต้นยางได้ถึง 50 ปี
       
       "จะเริ่มกรีดยางได้เมื่อต้นยางมีเส้นรอบวงยาว 50 เซ็นติเมตร ปกติจะเริ่มกรีดที่
ความสูง 150 เซ็นติเมตรลงมา ซึ่งต้นยาง 1 ต้นจะแบ่งหน้ากรีดเป็น 3 หน้า เมื่อกรีด
ไปถึงหน้าที่ 3 หน้ายางแรกที่ถูกกรีดไปก็จะเริ่มเกิดใหม่ โดยจะใช้เวลา 3-4 ปีในการ
เกิดใหม่ แต่ถ้าเริ่มกรีดไม่เรียบ ผิวหน้าที่เกิดใหม่ก็จะปูด-นูน ทำให้กรีดไม่ได้" มะนายิกล่าว
       
       แนวคิดในการออกแบบใบมีดกรีดยางแบบใหม่นั้น ผสมผสานรูปแบบของมีด
กรีดยางแบบเก่า กับใบมีดโกนหนวดและกบไสไม้ที่สามารถปรับองศาการกรีดได้ 
และผลจากการทดลองใช้ใบมีดของเกษตรกรสวนยาง พบว่าสามารถกรีดหนายาง
ได้ยาว 24 นิ้ว โดยใช้เวลานานขึ้นเป็น 3 ปี ขณะที่ใบมีดแบบเก่าใช้เวลาแค่ 1 ปี
 แต่กรีดเป็นทางยาวไปแล้วถึง 24 นิ้ว โดยใบมีด 1 ใบ กรีดได้ 2,000 ต้น
       
       ผลงานคิดค้นของมะนายิที่ปรับปรุงใบมีดมากว่า 10 แบบ เพิ่งได้รับรางวัล
ชนะเลิศการออกแบบเชิงนวัตกรรม ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ประจำปี 2556 
จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และมีความร่วมมือกับ บริษัท 
แอดวานซ์คิว จำกัด ในการผลิตและจัดจำหน่าย

ภาพและข้อมูลจากhttp://www.manager.co.th/